Inside Out มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง
ชื่ออังกฤษ : Inside Out
ชื่อไทย : มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง
ผู้กำกับ : พีท ดอคเตอร์
นักแสดง : เอมี่ โพห์เลอร์
บิล เฮเดอร์
มินดี้ เคลิ่ง
ฟิลลิส สมิธ
ค่ายภาพยนตร์ : Walt Disney Pictures
Pixar Animation Studios
หมวดหมู่ : แอนิเมชัน m, ตลก , ชีวิต
ความยาวหนัง 102 นาที
ชื่อไทย : มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง
ผู้กำกับ : พีท ดอคเตอร์
นักแสดง : เอมี่ โพห์เลอร์
บิล เฮเดอร์
มินดี้ เคลิ่ง
ฟิลลิส สมิธ
ค่ายภาพยนตร์ : Walt Disney Pictures
Pixar Animation Studios
หมวดหมู่ : แอนิเมชัน m, ตลก , ชีวิต
ความยาวหนัง 102 นาที
วันที่เข้าฉาย 12
สิงหาคม 2015 ในโรงภาพยนตร์
ก่อนอื่นเราจะมาอ่านเรื่องย่อของหนังคร่าวๆก่อนนะค่ะ
“ไรลีย์” เด็กหญิงวัย 11 ปี ผู้เติบโตขึ้นมาจากชีวิตแบบตะวันตกตอนกลางต้องย้ายมายังซานฟรานซิสโก
ตามพ่อของเธอที่ได้รับการเสนองานใหม่ … เช่นเดียวกับเราทุกคน ไรลีย์ถูกควบคุมด้วยอารมณ์ต่างๆของเธอไม่ว่าจะเป็น เศร้าซึม (Sadness) แทนความรู้สึกโศกเศร้า ความมัวหมอง จิตตก ลั้ลลา ( Joy ) แทนความรู้สึกความสุข รอยยิ้ม โลกสวย เรื่องสนุกสนาน กลั๊วกลัว (Fear) แทนความรู้สึกกลัว ความวิตกกังวลบน ใจไม่สู้ ไม่กล้า หยะแหยง(Disgust) แทนความรู้สึกรังเกียจ ถ้าไม่พอใจในทุกสิ่งทุกอย่างจะแสดงอาการเหวี่ยงทันที ฉุนเฉียว (Anger) แทนความรู้สึกโกรธ ไม่พอใจในสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเอง อารมณ์พร้อมจะระเบิดอยู่ตลอดเวลา
อารมณ์ทั้งหมดอาศัยอยู่ในศูนย์บัญชาการใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์ควมคุมส่วนกลางภายในจิตใจของไรลีย์
ที่ที่พวกเขาคอยช่วยแนะนำเธอให้ผ่านชีวิตในแต่ละวันได้ เมื่อไรลีย์และเหล่าอารมณ์ของเธอต้องปรับตัวกับการใช้ชีวิตในซานฟรานซิสโก
ความโกลาหลวุ่นวายก็คืบคลานมายังศูนย์บัญชาการใหญ่ แม้ ความสุข
ซึ่งเป็นอารมณ์หลักและสำคัญที่สุดของไรลีย์พยายามจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
ทว่าเหล่าอารมณ์ทั้งหลายกลับขัดแย้งกันเองในการใช้ชีวิตท่ามกลางเมืองใหม่แห่งนี้ ความทรงจำหลัก แต่ละความจำมาช่วงสำคัญในชีวิต
เช่นครั้งแรกที่ทำประตูฮอกกี้ได้.. เกาะบุคลิคภาพ เกาะฮอกกี้ เกาะติงต๊อง
เกาะมิตรภาพ เกาะจริงใจ เกาะครอบครัว
จากการที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ สรุปได้ว่า เป็นหนังแอนนิเมชั่นที่ไม่ใช่แค่การ์ตูนที่ไร้สาระที่ดูแล้วสร้างความบรรเทิงเพื่อตอบสนองผู้ดูเพียงอย่างเดียว
แต่ยังได้ให้แง่คิดอะไรหลายๆอย่าง กับคนดู ดูแล้วคิดตาม ดูแล้วทบทวนว่าเราเคยทำสิ่งเหล่านั้นรึป่าว
แล้วย้อนกลับไปถามตัวเองว่าสิ่งที่ทำไปมันถูกต้องมากน้อยแค่ไหน?
ในชีวิตของคนเราไม่ได้สวยงามโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป
คนทุกคนต้องมีจุดที่พีคที่สุดไม่ว่าจะดีหรือตกต่ำสุดๆ
และคนทุกคนต้องมีอารมณ์ ไม่ว่าจะสุข จะทุกข์ ผิดหวัง เสียใจ เศร้า กลัว โกรธ
แต่สิ่งที่ดีที่สุดอยู่ที่ว่าเราจะจัดการกับอารมณ์เหล่านั้นอย่างไร จะแสดงออกหรือเก็บมันไว้คนเดียว
และสิ่งหนึ่งที่ได้จากหนังเรื่องนี้พบว่า
ครอบครัวและการเลี้ยงดู รวมไปถึงสิ่งแวดล้อม มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโต
การเรียนรู้ การแสดงอารมณ์ ของคนๆหนึ่ง
เด็กจะดี เด็กจะก้าวร้าว ครอบครัวนี่หละค่ะ จะเป็นตัวสร้างเค้าขึ้นมา
ขัดเกลาเค้าขึ้นมา เด็กเปรียบเสมือนผ้าขาว
จะแต่งแต้มสีอะไรลงไปก็ง่าย ซึ่งเชื่อมโยงกับทฤษฏีของ (เพียเจต์ (Piaget) ได้ศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการทางด้านความคิดของเด็กว่ามีขั้นตอนหรือกระบวนการอย่างไร
ทฤษฎีของเพียเจต์ตั้งอยู่บนรากฐานของทั้งองค์ประกอบที่เป็นพันธุกรรม
และสิ่งแวดล้อม การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญา
ซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่าง ๆ เป็นลำดับขั้น
พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติ
ไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง
เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่า)
แต่การจัดการกับอารมณ์ของตัวเองก็สำคัญเช่นกัน บางอารมณ์เราไม่จำเป็นต้องแสดงมันออก
มา และบางอารมณ์เราก็ไม่ควรเก็บมันไว้คนเดียวก็ได้ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม
ใช่ละคนทุกคนย่อมมีอารมณ์ มีนิสัยที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่สังคมในปัจจุบันต้องมีคือการโอบอ้อมอารีและจริงใจซึ่งกันและกัน
เมื่อมีใครคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน พี่ น้อง ครู หรือใครก็ตามที่รู้จัก เวลาเค้าเศร้า เสียใจ ก็ต้องปลอบ เวลาเค้าดีใจมีความสุข ก็ต้องร่วมยินดีด้วยไม่ใช่คอยอิจฉาริษยา เวลาเค้าโกรธแสดงออกในทางที่ไม่ถูกต้องก็ต้องคอยตักเตือน
เวลาเค้ากลัว ก็คอย ปลอบใจ ไม่ใช่ซ้ำเติม หรือกลั่นแกล้ง ค่ะ ถึงจะทำได้ไม่ทั้งหมด
แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ชีวิตของคนเรา มีเรื่องราว มีเหตุการณ์ ต้องเจอกับคนหลายๆคน หลายความคิด หลายๆนิสัย ผ่านมาในชีวิตมากมาย
ไม่ว่าจะดี หรือร้าย คน เหตุการณ์
เรื่องราวเหล่านั้นจะเก็บไว้ในความทรงจำระยะสั้น หรือไม่ก็ระยะยาว อันนี้แล้วแต่การจัดการความทรงจำของเรา
แต่แปลกที่มนุษย์ส่วนใหญ่กลับจำแบบระยะยาวกับสิ่งที่ไม่ควรให้จำ เช่น จำเวลาที่เพื่อนล้อปมด้อยตอนเด็กๆ
จำได้ตอนที่พ่อแม่ด่าหรือตี จำได้เวลาที่กลัวอะไรแบบสุดๆ จำช่วงเวลาที่เสียใจสุดๆ
สรุปคือหนังเรื่องนี้ดีมากๆค่ะ ปกติไม่ชอบดูหนังการ์ตูน แต่พอได้ดูก็รู้สึกดี
และอินกับมันมากๆค่ะ
-
ฉากที่ชอบที่สุดคือฉากที่ลั้ลลากับปิ๊งป๊อง(เพื่อนในจินตนาการของไรลีย์) พยามกลับไปศูนย์บัญชาการความคิดของไรลีย์
พวกเค้าทำทุกหนทางเพื่อให้ไรลีย์กลับมาร่าเริงและมีความสุขอีกครั้ง
เปรียบเสมือนคนเราที่ควรทำอะไรตามวัย ตามความเหมาะสม ไม่แบกรับปัญหาไว้คนเดียว ก้าวผ่านปัญหาไปให้ได้
เพราะผลกระทบที่ตามมามันอาจจะกลายเป็นความทรงจำระยะยาวไปเลยก็ได้ ยิ้มและสู้กับมัน